ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

พระมหาชนก (๑๑)



จากนั้น  พระราชามหาชนกก็รับสั่งให้ขุดขุมทรัพย์ภายใน  คือ  ภายในธรณีพระทวารใหญ่  ก็พบขุมทรัพย์  รับสั่งให้ขุดขุมทรัพย์ภายนอก  คือ  ภายนอกธรณีพระทวารใหญ่ ก็พขุมทรัพย์  รับสั่งให้ขุดขุมทรัพยไม่ใช่ภายในไม่ใช่ภายนอก คือข้างล่างธรณีพระทวารใหญ่  ก็พบขุมทรัพย์  รับสั่งให้ขุดขุมทรัพย์ขาขึ้น  คือ  ตรงที่ประทับเสด็จขึ้นมงคลหัตถี  ก็พบขุมทรัพย์

จากนั้น  พระราชามหาชนกก็รับสั่งให้ขุดขุมทรัพย์ตามลำดับ  คือ

ขุมทรัพย์ภายใน  คือ  ขุดตรงภายในธรณีพระทวารใหญ่

ขุมทรัพย์ภายนอก  คือ  ขุดตรงภายนอกธรณีพระทวารใหญ่

ขุมทรัพย์ขาขึ้น  คือ  ขุดตรงเกยที่ประทับเสด็จขึ้นมงคลหัตถี

ขุมทรัพย์ขาลง  คือ  ขุดตรงที่เสด็จลงจากคอช้าง

ขุมทรัพย์ที่ไม้รังทั้งสี่  คือ  ขุดภายใต้เท้าพระแท่นบรรทม  ซึ่งทำด้วยไม้รังซึ่งตั้งจากพ้นดินขึ้นมา

ขุมทรัพย์ที่หนึ่งโยชน์โดยรอบ  คือ  ขุดตรงพระที่สิริไสยาสน์  โดยรอบประมาณชั่วแอก  เพราะการนับโยชน์สมัยนั้น  นับเท่าชั่วแอกเป็นโยชน์

ขุมทรัพย์ที่ปลายงาทั้งสอง  คือ  ขุดตรงที่งาทั้งสองของมงคลหัตถียื่นออกไป

ขุมทรัพย์ปลายหาง  คือ  ขุดตรงที่ปลายหางของมงคลหัตถีเหยียดไป

ขุมทรัพย์ที่น้ำ  คือ  ขุดตรงที่สระโบกขรณี

ขุมทรัพย์ที่ปลายไม้  คือ  ขุดตรงโคนไม้รังใหญ่ในพระราชอุทยาน  ถือเงาไม้เวลาเที่ยงวัน  ปลายไม้เป็นเงาปกอยู่ที่โคน

เมื่อรับสั่งให้ขุดตรงไหน  ก็พบขุมทรัพย์ทุกแห่ง  มหาชนต่างพากันแสดงความร่าเริงยินดี   สรรเสริญความมหัศจรรย์ในทางปัญญาของพระมหาชนกอยู่เซ็งแซ่

พระมหาชนกราชได้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ครองมิถิลานครให้ให้ความร่มเย็นแก่พสกนิกรตลอดเวลา  โปรดให้สร้างศาลาทาน  ๖  แห่ง  คือท่ามกลางพระนคร  ๑  แห่ง  ที่ประตู ๑  แห่ง  ที่ประตูพระราชวัง  ๑  แห่ง  ทรงบริจาคมหาทานเป็นประจำ  โปรดให้เชิญพระราชมารดา  และพราหมณ์ปุโรหิตมาจากจัมปานคร  ทรงอุปถัมภ์บำรุงท่านทั้งสองให้ไ้ด้ความสุขกายสบายใจตลอดมา

ชาวเมืองมิถิลาเมื่อได้ทราบว่าพระราชามหาชนกที่ขึ้นครองราชสมบัติองค์ใหม่นี้  เป็นพระโอรสของพระเจ้าอริฏฐะ  ต่างก็ดีใจนำเครื่องบรรณาการมาถวาย  จัดการสมโภชน์  มีมหรสพภายในพระนคร  ได้ช่วยกันตกแต่งพระราชนิเวศน์ห้อยพวงบุปผามาลัย  จัดน้ำและอาหารใส่ภาชนะเงินภาชนะทองคำ  นำขึ้นน้อมเกล้าถวายเป็นเครื่องราชบรรณาการ  ผู้เข้าเฝ้าได้ประจำอยู่ตามประรำที่จัดไว้ บรรดาอำมาตย์ราชเสวกเฝ้าอยู่ประรำหนึ่ง  นางสนมกำนัลในเฝ้าอยู่ประรำหนึ่ง  ประชาชนเฝ้าอยู่รอบ ๆ  พราหมณ์สาธยายมนต์อำนวยความสวัสดี  ผู้มาเฝ้ากล่าวคำถวายชัยมงคลกึกก้องโกลาหล  บรรดาคณะดนตรีก็ขับร้องประสานเสียงกันอย่างเอิกเกริก  เป็นที่รื่นรมย์โสมนัสยิ่ง

พระราชามหาชนกประทับบนพระราชอาสน์ภายใต้พระมหาเศวตฉัตร  ทอดพระเนตรเห็นความเอิกเกริกโกลาหล  ที่ประชาชนได้มาแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์เช่นนั้น  ก็ทรงระลึกคราวที่พระองค์พยายามว่ายข้ามมหาสมุทร  ไม่ย่อท้อถอย  จนนางมณีเมขลาเห็นความอุตสาหะอันแรงกล้า  ได้พาข้ามไปจนสำเร็จ  เพราะความพยายามที่ทำมานั้น  จึงเป็นเหตุให้รับผล คือ  ครองราชสมบัตินี้  เมื่อทรงหวนระลึกดังนั้น  ก็ทรงปีติโสมนัสซาบซ่าน  ทรงเปล่งอุทานด้วยความปีติว่า


...............................


จาก....หนังสือทศชาติชาดก  (พระเจ้าสิบชาติ)
โดย....แปลก  สนธิรักษ์

















ไม่มีความคิดเห็น: