พระมหาชนกได้ยินเสียงดนตรรีก็ตื่นจากบรรทม เปิดผ้าคลุมทอดพระเนตรเห็นบุษยราชรถก็ทรงดำริว่า " เราคงได้เป็นราชาครองราชสมบัติในเมืองนี้แน่แท้ " แล้วก็คลุมพระเศียรอย่างเดิม พลิกพระวรกายบรรทมต่อไป มิได้ทรงแสดงอาการตื่นเต้นตกใจแต่อย่างไร
ปุโรหิตตรงไปเปิดผ้าคลุมพระบาทตรวจดูลักษณะ เห็นลักษณะต้องตามพยากรณศาสตร์ว่า บุรุษที่มีลักษณะเช่นนี้ อย่าว่าแต่จะครองราชสมบัติเพียงทวีปเดียวเลย ต่อให้ทั้งี่ทวีปก็สามารถครองได้ จึงประกาศพระลักษณะให้มหาชนที่รอฟังวามอยู่ ณ ที่นั้นให้ทราบ แล้วให้ดนตรีประโคมอีกครั้งหนึ่ง
พระมหาชนกทรงเปิดผ้าคลมทอดพระเนตรดูหน่อยหนึ่งแล้วพลิกวรกายบรรทมต่อไป
ปุโรหิตเห็นว่า บุรุษผู้นี้มีบุญญาธิการสมควรได้ราชสมบัติ จึงนั่งลงกราบถวายบังคมว่า " ขอเดชะ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพระองค์เสด็จลุกขึ้นเถิด บัดนี้ราชสมบัติแห่งมิลิลานครได้มาถึงพระองค์แล้ว พระเจ้าข้า "
พระมหาชนกตรัสถามปุโรหิตว่า " พระเจ้าอยู่หัวของท่านไปไหนเสียเล่า ? "
ปุโรหิตกราบทูลว่า " ได้เสด็จสวรรคตเสียแล้ว พระเจ้าข้า "
พระมหาชนกตรัสว่า " ถ้าเช่นนั้นดีแล้ว เราจักครองราชสมบัติ " แล้วเสด็จลุกขึ้นประทับนั่งบนแผ่นหินอันเป็นมงคล
ขณะนั้น มหาชนพร้อมด้วยเสนามาตย์ราชปุโรหิตาจารย์ต่างก็ถวายราชาภิเษกพระมหาชนก ณ ที่นั้น แล้วทูลขอพระนามพระองค์ พระมหาชนกรับสั่งว่า "เราชื่อมหาชนก บัดนี้ท่านทั้งหลายได้จัดพิธีราชาภิเษกแก่เราแล้ว เราจึงมีชื่อว่า มหาชนกราชา "
พระมหาชนกราชได้เสด็จเข้าพระนคร ตรงเข้าพระราชมนเทียรเสด็จเลยเข้าถึงฝ่ายใน
พระนางสีวลีราชธิดาทรงทราบว่า " เสนามาตย์ราชปุโรหิตได้จัดการอภิเษกบุรุษผู้หนึ่งเป็นพระราชา ทรงพระนามว่า พระมหาชนกราช บัดนี้ พระมหาชนกราชได้เสด็จเข้ามาอยู่ในพระราชวังฝ่ายในแล้ว" จึงทรงดำริที่จะทดลอง จึงรับสั่งเรียกราชบุรุษคนหนึ่งมาเฝ้าแล้วตรัสว่า " นี่แน่ เจ้าจงไปทูลพระมหาชนกราชว่า พระนางสีวลีราชธิดามีพระประสงค์จะทรงพบ ขอได้โปรดรีบเสด็จไปเฝ้าโดยไวเถิด" ราชบุรุษรับกระแสรับสั่งของพระนางแล้วก็ไปเฝ้าพระมหาชนกราช กราบทูลตามที่พระนางสั่ง
พระราชามหาชนกทรงสดับคำกราบทูลของราชบุรุษดังนั้น ก็ทรงทำเป็นไม่ได้ยิน ทรงเสแสร้งทำเป็นชมปราสาทว่า "แหม ปราสาทนี้งามตระการยิ่งนัก เป็นบุญของเราแล้วที่ได้อยู่ปราสาทนี้ " แม้ราชบุรุษจะกราบทูล ๒ ครั้ง ๓ ครั้ง ก็ทรงทำเป็นไม่ได้ยิน
ราชบุรุษเมื่อเห็นว่า พระราชามิได้ทรงสนพระทัยในคำกราบทูลของตน จึงกลับไปเฝ้าพระราชธิดา กราบทูลว่า "ข้าแต่พระนาง หม่อมฉันได้กราบทูลแด่พระราชาตามกระแสรับสั่งของพระนาง แต่พระราชามิได้ทรงสนพระทัยกับคำกราบทูลนั้นเลย กลับทรงชมมหาปราสาทอยู่ตลอดเวลา พระเจ้าข้า "
พระราชธิดาทรงดำริว่า " พระราชาองค์นี้ฉลาดมาก " ได้ทรงสั่งราชบุรุษไปกราบทูลอีก ๒ ครั้ง ๓ ครั้งก็ไม่สำเร็จ เป็นอันจนพระทัย คอยเฝ้าดูเหตุการณ์ต่อไป
........................................
จาก....หนังสือศชาติชาดก (พระเจ้าสิบชาติ)
โดย....แปลก สนธิรักษ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น