ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พระมหาชนก (๑)



พระเจ้ามหาชนกกษัตริย์แห่งกรุงมิถิลาวิเทหรัฐ  ทรงมีพระราชโอรสสองพระองค์ทรงพระนามว่า  เจ้าอริฏฐชนก  องค์หนึ่ง  เจ้าโปลชนก องค์หนึง  พะราชบิดาพระราชทานตำแหน่งอุปราชแก่เจ้าอริฏฐชนก  พระราชทานตำแหน่งเสนาบดีแก่เจ้าโปลชนก

เมื่อพระเจ้ามหาชนกเสด็จสวรรคต  เจ้าอริฏฐชนกได้เสวยราชสมบัติสืบแทน  พระราชทานตำแหน่งอุปราชแก่เจ้าโปลชนกผู้เป็นพระอนุชา

ครั้นกาลต่อมา  มีอำมาตย์คนหนึ่งหาเรื่องใส่ไคล้เจ้าโปลชนกอุปราชเข้าไปกราบทูลพระเจ้าอริฏฐชนกว่า   "ขอเดชะ  บัดนี้ภัยใหญ่จะมาถึงพระองค์แล้ว  พระมหาอุปราชคิดการร้ายต่อพระองค์  โดยจะปลงพระชนม์ของพระองค์แล้ว ตั้งตนเป็นพระมหากษัตริย์  พระเจ้าข้า"   พระเจ้าอริฏฐชนกยังมิปลงพระทัยเชื่อก่อน  ครั้นอำมาตย์กราบทูลบ่อย ๆ  เข้าก็ทรงเชื่อ  หมดความรักในพระอนุชา  รับสั่งให้จับพระเจ้าโปลชนกมหาอุปราช  แล้วจองจำนำไปขังไว้  ณ  คฤหาสน์หลังหนึ่ง  ให้ควบคุมไว้อย่างแข็งแรง

เจ้าโปลชนกมหาอุปราช  เมื่อถูกราชภัยจองจำเช่นนั้น  ก็ทรงตั้งสัตยาธิษฐานว่า   "หากตัวเราคิดคดขบถต่อพระเชษฐาธิราชดังกล่าวหาแล้ว  ขอให้เครื่องจำจองอย่าได้หลุดจากมือและเท้าของเราเลย  หากตัวเรามิได้คิดคดขบถต่อพระเชษฐาธิราชแล้ว  ขอให้เครื่องจองจำจงหลุดจากมือและเท้าของเรา  และขอให้ประตูเรือนจำจงเปิดเถิด"  ในทันใดนั้นเอง  เครื่องพันธนาการก็หักออกเป็นท่อน ๆ  และประตูก็เปิดออก  เจ้าโปลชนกอุปราชก็เสด็จหนีออกไปประทับอยู่ที่บ้านชายแดนแห่งหนึ่ง  ชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นจำพระองค์ได้ดี  จึงช่วยกันปรนนิบัติพระมหาอุปราช  ให้ทรงได้รับความสุขสำราญตลอดเวลา


................................




ปวงข้าพระพุทธเจ้า  ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม  
รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

ปวงข้าพระพุทธเจ้า  สมาคมไทย - กวนอิม,  สวิตเซอร์แลนด์


...........................